บางคนมีรูปร่างผอมมาตลอด กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ผอมมากๆ ก็ถูกมองว่าเป็นคนผอมแห้ง แรงน้อย หากมีกล้ามเนื่อเพิ่มขึ้นมาหน่อยให้รูปร่างแลดูมีสัดส่วน กล้ามเนื้อกระชับเด่นชัดคงช่วยให้ดูสวย ดูหล่อเพิมขึ้น แถมด้วยความมั่นใจที่ในบุคลิกภาพของตัวเองเพิ่มขึ้นได้ด้วยคงจะดี
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้บางคนกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน
ภาวะรูปร่างผอมเกิดจากปัจจัยต่างๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง เราจำเป็นต้องสังเกตเพื่อหาสาเหตุก่อน แล้วจึงทำการแก้ไข ทั้งนี้อาจสังเกตจากปัจจัยต่อไปนี้
1. ความเครียดและวิตกกังวล เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำหนักลดลง เมื่อเกิดความเครียดฮอร์โมนคอร์ติซอลจะเพิ่มสูงขึ้น กระตุ้นให้ร่างกายทำงานหนัก และใช้พลังงานมากเกินความจำเป็น ส่งผลให้ร่างกายซูบผอม หรือโทรมลง
2. การรับประทานอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ ซึ่งอาจเกิดจากการขาดความรู้เกี่ยวกับหลักโภชนาการ และได้รับข้อมูลที่เกิดเป็นความเชื่อแบบผิดๆ เกี่ยวกับคุณค่าทางสารอาหาร ทำให้เลือกทานแต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และส่งผลให้น้ำหนักลดลงทั้งที่ทานอาหารในปริมาณปกติ
3. เกิดจากยาบางตัวหรือสารเสพติด การรับประทานยารักษาโรคบางชนิด เช่น ยาจิตเวช หรือใช้สารเสพติดบางชนิด เช่น ยาบ้า โคเคน รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลให้น้ำหนักลดลงได้ แม้ว่าจะทานอาหารไปมากเท่าไหร่ก็ตาม
4. เกิดจากโรคประจำตัว เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะน้ำหนักลดและหาทางแก้ได้ยาก เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคซึมเศร้า ไบโพลาร์ โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร การติดเชื้อ HIV
5. ปัจจัยทางพันธุกรรม เกิดจากการถ่ายทอดยีนทางพันธุกรรม ที่ส่งผลให้มีรูปร่างผอมหรือน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์
6. มีอัตราการเผาผลาญพลังงานสูง เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ทานอาหารเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่เพิ่มขึ้น หรือหากทานน้อยร่วมด้วยน้ำหนักก็จะยิ่งลดลง
7. เอนไซม์ในระบบทางเดินอาหารผิดปกติ ทำให้อาหารที่ทานเข้าไปไม่ถูกย่อยหรือส่งผลต่อการดูดซึมสารอาหาร ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานไม่เพียงพอ
ระหว่างคนผอมกับคนอ้วนใครมีโอกาสเพิ่มกล้ามได้เร็วกว่ากัน คำตอบคือ "คนอ้วน" มีโอกาสเพิ่มมวลกล้ามเนื้อได้มากกว่า ดังนั้น คนผอมที่ฝันอยากมีกล้ามจึงต้องใช้วิธีที่ต่างออกไป ที่เป็นเช่นนั้น เพราะภายใต้ชั้นไขมันของคนอ้วนส่วนใหญ่ก็จะมีกล้ามเนื้อมากกว่าคนผอม เพื่อให้มีแรงมากพอที่จะขยับร่างกายที่มีน้ำหนักมากกว่าปกติ เมื่อออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อก็จะได้ผลเร็วมากกว่าเพียงแค่ต้องลดอาหารประเภทไขมัน และแป้งลง เพื่อให้กล้ามเนื้อที่ซ่อนอยู่ภายในปรากฏออกมาให้เด่นชัดนั่นเอง
ในขณะที่คนผอมนั้นจะมีมวลกล้ามเนื้อค่อนข้างน้อย แต่มีข้อเด่นตรงที่ระบบเผาผลาญพลังงานนั้นจะสูงกว่าคนที่อ้วนง่าย ไม่ต้องเหนื่อยกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอมากเหมือนคนน้ำหนักเกิน แนวทางการสร้างกล้ามเนื้อของคนผอม และอ้วนจึงแตกต่างกัน เมื่อโฟกัสเฉพาะการออกกำลังเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อของคนผอมโดยเฉพาะ จะต้องทำอย่างไรบ้าง
กินให้บ่อยและมากกว่าปกติ
การรับประทานอาหารของคนเล่นกล้ามนั้นเป็นองค์ประกอบสำคัญ คนผอมหากต้องการให้ร่างกายขยาย และเต็มไปด้วยมัดกล้ามมากขึ้นก็ต้องรับประทานอาหารให้มากกว่าปกติ โดยเฉพาะโปรตีน แต่ส่วนมากแล้วที่ทำไม่สำเร็จก็เพราะร่างกายมีกระเพาะที่เล็ก รับประทานมากแล้วรู้สึกแน่นจุก
หากรับประทานอาหารมากไม่ได้ก็ควรปรับให้รับประทานบ่อยขึ้น มีช่วงมื้อว่างระหว่างวัน เน้นรับประทานอาหารที่ให้โปรตีนสูงเพื่อนำไปใช้สร้างกล้ามเนื้อ รับประทานของหวาน หรืออาหารอื่นๆ ได้ตามปกติ ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่คนอ้วนที่ต้องการลดน้ำหนักสร้างกล้ามเนื้อไม่สามารถทำได้เลย ทั้งนี้คนที่มีรูปร่างผอมควรทานอาหารให้ได้อย่างน้อย 40 แคลอรี่ ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
เมื่อร่างกายเรามีสารอาหารและพลังงานมากพอก็จะไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อ รวมทั้งไม่ดึงไกลโคเจนที่กล้ามเนื้อมาใช้เมื่อพลังงานขาดแคลน ทำให้คุณสามารถออกกำลังกายแล้วกล้ามขึ้นได้เร็ว
เพิ่มน้ำหนักเวทขึ้นไปเรื่อยๆ
เป็นปกติของการเล่นกล้ามที่ต้องเพิ่มน้ำหนักดัมบ์เบลขึ้นไปเรื่อยๆ สูตรแรกเล่นแบบค่อยเป็นค่อยไป เช่นสัปดาห์แรก ใช้ดัมบ์เบลน้ำหนัก 5 กก. สัปดาห์ต่อมาขยับขึ้นไปเป็น 6-7 กก. และค่อยๆ เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ตามความแข็งแรงที่เพิ่มมากขึ้น
สูตรต่อมาเล่นแบบนักกีฬาเพาะกายที่เล่นเพิ่มขึ้นไปตามเซต เช่น เซตแรกยก 5 กก. เซตต่อมาเพิ่มเป็น 7 กก. และเพิ่มขึ้นเป็น 12-15 ในเซตต่อๆ ไป จนกว่าจะรู้สึกปวดกล้ามเนื้อจนยกไม่ขึ้นถึงจะพอ จากนั้นพักการเล่นกล้ามเนื้อในส่วนนั้นประมาณ 1-2 วัน เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ฟื้นตัว
วิธีที่สองออกแนวโหดไปสักนิด แต่เป็นวิธีที่สร้างกล้ามเนื้อได้เร็ว และยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ประกอบกัน เช่น กินอาหารที่มีโปรตีนมากพอที่จะซ่อมกล้ามเนื้อที่เสียหาย และสร้างเพิ่มเพื่อรองรับการออกกำลังกายครั้งต่อไป
ยกน้ำหนักให้ช้า ไม่ควรรีบ
ถ้าคุณต้องการขยายร่างให้ดูสมบูรณ์ ก็ไม่ควรเร่งยกดัมบ์เบล หรือยกน้ำหนักให้ครบเซตไปวันๆ ควรใส่ใจกับการหายใจเข้าออก และยกอย่างช้าๆ ให้กล้ามเนื้อทุกมัดได้ออกแรงได้คราวเดียวทั้งตอนยกขึ้นและลง ส่วนมากแล้วเราจะใส่ใจในการยกขึ้น แต่ตอนลงนั้นยังสามารถออกแรงประคองเพื่อใช้แรงกล้ามเนื้อในส่วนอื่นได้อีกด้วย คราวต่อไปยกให้ช้า ใช้แรงทั้งขาขึ้นและขาลง ไม่เสียเวลา และยังได้กล้ามเนื้อมัดเล็กเพิ่มอีกด้วย
คนรูปร่างผอมหลายๆ คนประสบปัญหาเกี่ยวกับการฟื้นฟูสภาพกล้ามเนื้อที่ฉีกขาด หลังการออกกำลังกาย หากร่างกายไม่สามารถฟื้นฟูสภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ กส่งผลให้กล้ามเนื้อโตยาก เทคนิคสำคัญคือ การได้นอนหลับพักผ่อนที่มีคุณภาพ และเพียงพอ ทั้งนี้ควรนอนต่อเนื่องให้ได้ประมาณ 9-10 ชั่วโมง ต่อวัน
ติดตามผลความเปลี่ยนแปลง
เริ่มต้นการเล่นกล้ามสำหรับคนผอมให้วัดขนาดรอบแขน ขา หน้าอก เอว ไหล่ สะโพก ต้นขา จดอย่างละเอียด แล้ววัดความเปลี่ยนแปลงทุกสัปดาห์อย่างใจเย็น ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นทีละเล็กละน้อยจะเป็นกำลังใจให้คุณพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ โดยปกติแล้วคนผอมที่เล่นกล้ามจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี กว่าจะได้มัดกล้ามสวยอย่างที่ต้องการ
ดังนั้น หากเล่นกล้ามมาหลายเดือนแล้วยังไม่เห็นผลก็ไม่ต้องท้อใจ เป็นเรื่องธรรมดา แต่สิ่งที่คุณจะรู้สึกได้แม้กล้ามจะยังไม่ขึ้นอย่างที่ต้องการก็คือ ร่างกายแข็งเรงขึ้น คล่องตัวขึ้น ยกของหนักๆ ได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อยเหมือนแต่ก่อน เล่นต่อไปเรื่อยๆ สักวันหุ่นสวยๆ เท่ๆ จะเป็นของคุณเอง
Comentarios