top of page
รูปภาพนักเขียน๋Jirasak Kaenkaew

“คาร์ดิโอ” กับ “เวทเทรนนิ่ง” แบบไหนลดน้ำหนักได้ดีกว่ากัน


การออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักและไขมันส่วนเกินตามส่วนต่างๆ ของร่างกายนั้น มีด้วยกันหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีจุดมุ่งหมายในการกระชับสัดส่วนหรือลดไขมันที่แตกต่างกันไป จึงทำให้เกิดคำถามที่ว่า ถ้าเราต้องการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักและไขมันส่วนเกิน กระชับสัดส่วน เราควรเลือกการออกกำลังกายแบบไหนจะดีกว่ากัน ระหว่าง คาร์ดิโอ กับ เวทเทรนนิ่ง หรือควรทำทั้งคู่



คาร์ดิโอ

คาร์ดิโอ (Cardio) เป็นหนึ่งในประเภทการออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจให้อยู่ในระดับที่สูงกว่า 60% ของจุดที่คุณรู้สึกเหนื่อยที่สุดอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีการลดระดับลง ซึ่งจะใช้เวลาในการออกกำลังกายประมาณ 30 – 60 นาที


โดยการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอนั้นจะช่วยเผาผลาญพลังงาน และไขมันส่วนเกินในร่างกายได้ดีกว่าการออกกำลังกายแบบอื่น แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยในการออกกำลังกายด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความเข้มข้นที่ใช้ น้ำหนักตัว อัตราการเต้นของหัวใจในช่วงนั้นๆ รวมไปถึงระยะเวลาในการออกกำลังกายที่ใช้ด้วย


การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ นอกจากการวิ่ง ซึ่งเป็นวิธีคาร์ดิโอที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้ว ยังรวมไปถึงการว่ายน้ำ ขี่จักรยาน และเดินเร็วอีกด้วย โดยนอกจากจะเป็นวิธีที่ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ดีแล้ว ยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมากขึ้น ช่วยควบคุมอาการของโรคเรื้อรัง และทำให้หัวใจและปอดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

จำนวนพลังงานที่เผาผลาญได้ระหว่างที่เราคาร์ดิโอนั้น จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของการออกกำลังกายที่เราเลือก และความเข้มข้นในการออกกกำลังกาย เช่น การวิ่ง หากเราวิ่งเร็วจะสามารถเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าการวิ่งช้านั่นเอง แต่พลังงานที่เผาผลาญไปก็จะมาจากทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน


การเลือกลักษณะการคาร์ดิโอที่แตกต่างกัน ร่างกายก็จะเลือกใช้แหล่งพลังงานที่แตกต่างกันด้วย เช่น การวิ่งเร็วก็จะใช้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก หรือการวิ่งช้าจะใช้พลังงานจากไขมันเป็นหลัก


เวทเทรนนิ่ง คือ

เวทเทรนนิ่ง (Weight training) หรือการยกเวท เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยเผาผลาญไขมัน ที่ทำให้กล้ามเนื้อได้ออกแรงต้าน จากการยกน้ำหนัก ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงทนทานของกล้ามเนื้อ

หลายคนที่ต้องการ ลดพุง ลดไขมัน มักจะไม่ค่อยใช้วิธีเวทเทรนนิ่งในการออกกำลังกาย เพราะมักเข้าใจผิดคิดว่าคนที่ยกเวทจะต้องมีกล้ามแขนใหญ่ ทำให้รูปร่างออกมาหนา ซึ่งการจะมีกล้ามใหญ่ๆ อย่างนักเล่นกล้ามได้ ยังมีอีกหลายปัจจัยมาก เช่น วินัยในการฝึก ความเข้มข้นของการออกกำลังกาย การควบคุมปริมาณสารอาหาร เป็นต้น ดังนั้น ไม่ต้องไปกังวล


สิ่งสำคัญของการยกเวทอย่างถูกวิธี คือน้ำหนักเหมาะสมที่เราใช้ (น้ำหนักที่เหมาะสม คือ น้ำหนักที่ทำให้เรายกครั้งที่ 12 หรือ 15 แล้วหมดแรงพอดี โดยยังโฟกัสกล้ามเนื้อได้อย่างถูกต้อง) เวทเทรนนิ่ง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งการออกกำลังกายที่จะช่วยเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี และมีรูปร่างที่กระชับได้สัดส่วน

การเวทเทรนนิ่ง ช่วยทำให้ร่างกายของเรามีมวลกล้ามเนื้อมากขึ้น และเมื่อมีกล้ามเนื้อมากขึ้น จะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้สามารถทำงานต่อเนื่องยาวนาน แม้จะเลิกออกกำลังกายไปแล้วก็ตาม ซึ่งต่างจากการคาร์ดิโอที่หากเลิกเล่นไปแล้ว การเผาผลาญก็จะหยุดทำงานนั่นเอง

จำนวนกิโลแคอลรี่ที่เผาผลาญได้จากการเวทเทรนนิ่งนั้น จะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของเวทที่ยก รวมไปถึงความเข้มข้นของการออกกำลังกาย หากต้องการให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ก็ควรเลือกท่าการยกน้ำหนักและใช้น้ำหนักที่เหมาะสม ไม่เบาเกินไป จะช่วยให้คุณเห็นผลการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้ดียิ่งขึ้น


อุปกรณ์ในการเล่นเวท ส่วนมากเราจะใช้ดัมเบล บาร์เบล เป็นอุปกรณ์หลักในการออกกำลังกาย แต่สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้น คนที่ไม่สะดวกในการหาอุปกรณ์ หรือไม่สะดวกไปฟิตเนส เราสามารถใช้น้ำหนักตัว (บอดี้เวท) ของเราในการออกกำลังกายประเภทนี้ได้เช่นกัน บอดี้เวท จริงๆ ก็คือ เวทเทรนนิ่งโดยใช้น้ำหนักตัวเราแทนการใช้อุปกรณ์ยกน้ำหนัก


ระหว่างเวทเทรนนิ่งกับคาร์ดิโอ แบบไหนดีกว่ากัน?

จะเห็นได้ว่า การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ และเวทเทรนนิ่งล้วนช่วยลดน้ำหนักได้ดีทั้งสิ้น แต่การเวทเทรนนิ่งเพียงอย่างเดียว อาจช่วยลดน้ำหนักได้แต่เห็นผลช้า ส่วนการคาร์ดิโอก็ทำให้น้ำหนักลดลงได้จริง แต่ขาดความกระชับของสัดส่วน เมื่อเราน้ำหนักลด แต่ผิวของเราจะย้วยได้ง่าย เพราะไม่มีกล้ามเนื้อ ทำให้หุ่นไม่เฟิร์ม เนื่องจากการคาร์ดิโอนอกจากจะลดไขมันเราแล้วยังลดกล้ามเนื้อเราไปด้วย


เพราะฉะนั้นเพื่อประสิทธิภาพในการออกกำลังกายลดน้ำหนักที่ดีที่สุด แนะนำให้เวทเทรนนิ่งควบคู่ไปกับการคาร์ดิโอ เพื่อเร่งการเผาผลาญไขมัน และกระชับสัดส่วนไปในตัว ซึ่งจะทำให้คุณมีรูปร่างที่ฟิตเฟิร์มมากขึ้น หุ่นสวย และมีสุขภาพดีดั่งใจอย่างแน่นอน

เทคนิคการเล่นเวทเทรนนิ่งสลับคาร์ดิโอเพื่อให้ลดน้ำหนักอย่างได้ผล


การจะเล่นเวทเทรนนิ่งสลับกับคาร์ดิโอให้ได้ผล และช่วยลดน้ำหนักได้ดีที่สุด ไม่ใช่เรื่องยาก แนะนำให้เล่นเวทวันละ 6-7 ท่า ท่าละ 3 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง จากนั้นให้ต่อด้วยคาร์ดิโออีกประมาณ 30 นาที ทำแบบนี้ 3-5 วันต่อสัปดาห์ หรือจะแบ่งวันเลยก็ได้ เช่น วันนี้คาร์ดิโอด้วยการวิ่ง พรุ่งนี้ เวทเทรนนิ่ง โดยจะไปเล่นที่ฟิตเนส หรือที่บ้านก็ได้ รับรองว่าน้ำหนักลดลง เฟิร์มขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน


นอกจากนี้การคาร์ดิโอควบคู่กับการเวทเทรนนิ่งยังช่วยให้ร่างกายของเราออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อย่างเช่น นักวิ่งที่เวทเทรนนิ่งกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวและขา ควบคู่ไปกับการซ้อมวิ่ง จะทำให้เราวิ่งได้ดีขึ้นและไม่บาดเจ็บง่ายด้วย




สรุป

ไม่ว่าจะเล่นเวทเทรนนิ่งหรือคาร์ดิโอ ก็ช่วยลดน้ำหนักและทำให้สุขภาพแข็งแรงได้ดีทั้งสิ้น แต่จะให้ผลดีมากขึ้นในระยะยาว ควรทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารที่ถูกต้องด้วย การันตีเลยว่าคุณจะได้รูปร่างตามที่ต้องการอย่างแน่นอน


ได้รับการสนับสนุน

WHEY PROTEIN สูตรพิเศษ ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับระบบร่างกายของมนุษย์ และช่วยส่งเสริมให้การออกกำลังกายหรือการควบคุมน้ำหนักนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยเวย์โปรตีนสูตรพิเศษที่มีความบริสุทธิ์และเข้มข้นสูงถึง 90% โดยสกัดพิเศษ ให้มีโมเลกุลขนาดเล็ก และผ่านกระบวนการแยกแลคโตสและน้ำตาลออกจากโปรตีน อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนจำเป็น พร้อมสารสกัดจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติ ด้านการต้านอนุมูลอิสระและชะลอวัย เพื่อหุ่นใหม่และสุขภาพที่ดีกว่า





สนใจผลิตภัณฑ์ คลิ๊กเลย >>>



ดู 1 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page