ความหวานเป็นสิ่งควบคู่กับความอร่อย ส่งผลให้ชีวิตสุขสดชื่น หลายคนคงเห็นด้วย แต่ความหวานกลับเป็นภัยต่อสุขภาพของเราอย่างมาก เรามาทำความรู้จักภัยจากความหวานที่อยู่ใกล้ตัวเรากันดีกว่า
ความหวาน คือน้ำตาลซึ่งเป็นหนึ่งในอนุพันธ์ของกลุ่มอาหารที่เรียกว่าคาร์โบไฮเดรต หรืออาหารจำพวกแป้ง ไม่ว่าจะเป็นข้าว ขนมปัง เบเกอรี่ ขนมเค๊กต่างๆ เมื่อทานเข้าไปก็จะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในร่างกายของเรา
นอกจากแป้งแล้ว ในผลไม้หลายชนิดก็มีน้ำตาลสูงเช่นกัน โดยเฉพาะผลไม้ที่มีรสหวานฉ่ำ ดังนั้นการเลือกทานแต่ผลไม้เพื่อหวังผลในการควบคุมน้ำหนัก บางครั้งอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด
ความหวานที่น่ากลัวอีกอย่างหนึ่งคือความหวานที่ถูกผลิตขึ้นมา เพื่อประโยชน์ในทางอุตสาหกรรม ซึ่งอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าน้ำตาลในรูปแบบปกติ หรือน้ำตาลจากธรรมชาติ (แป้ง และผลไม้จัดเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติ) น้ำตาลที่กล่าวถึงคือผลิตภัณฑ์กลุ่ม “ไฮ ฟรักโทส คอร์น ไซรัป” (High Fructose Corn Syrup)
ไฮ ฟรักโทส คอร์น ไซรัป เป็นน้ำเชื่อมสกัดจากข้าวโพด ชนิดที่มีฟรักโทสสูง โดยมีส่วนประกอบของน้ำตาล 2 ชนิด คือ น้ำตาลฟรักโทส (Fructose) 55% และน้ำตาลกลูโคส (Glucose) 45% เป็นน้ำตาลที่มีความหวานมากกว่าน้ำตาลทั่วไปประมาณ 1.7 เท่า และมีราคาที่ถูกกว่าน้ำตาลธรรมชาติมาก จึงทำให้เป็นที่นิยมนำมาใช้ในการผลิตอาหาร และเครื่องดื่มเพื่อจำหน่าย
หากเราสังเกตจากฉลากผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่มต่างๆ ตามท้องตลาด จะพบว่ามีส่วนผสมของสารให้ความหวานประเภทนี้เป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม น้ำผลไม้ เครื่องดื่มบรรจุขวดต่างๆ ที่ให้ความหวาน ชานมไข่มุก เบเกอรี่ต่างๆ ขนมขบเคี้ยว ซอสปรุงรส อาหารสำเร็จรูปต่างๆ เป็นต้น ทั้งนี้จะขอยกตัวอย่างน้ำอัดลมกระป๋องขนาด 325 มิลลิลิตร จะมีความหวานเทียบเท่ากับน้ำตาล 12 ก้อน ซอสมะเขือเทศ 1 ขวด มีน้ำตาลอยู่ประมาณ 1 ใน 4 ของขวด
การบริโภค ไฮ ฟรักโทส คอร์น ไซรัป ปริมาณ 25% ของพลังงานที่ได้รับต่อวัน (คำนวณจากผู้ที่ต้องการพลังงาน 2,000 กิโลแคลลอรี่/วัน) ติดต่อกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ จะส่งผลให้ระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) และ แอล ดี แอล คลอเลสเตอรอล (LDL Cholesterol) หรือที่เราเรียกกันว่าไขมันเลวในเลือดเพิ่มสูงขึ้น
น้ำตาลฟรักโทสเมื่อถูกดูดซึมจากผนังลำไส้แล้ว จะถูกส่งไปยังตับเพื่อทำการย่อยสลาย แต่หากเราบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลดังกล่าวอยู่เป็นประจำ ตับจะเกิดการย่อยสลายไม่ทัน น้ำตาลดังกล่าวจึงถูกสังเคราะห์เป็นไขมันไตรกลีเซอไรด์ เก็บสะสมในตับเกิดเป็นภาวะ “ไขมันพอกตับ” นานวันเข้าตับเกิดการอักเสบ ร่างกายจึงมีการสร้างพังพืดขึ้นมาเพื่อทำการเยียวยารักษาตับ แต่กลับกลายเป็นภาวะตับแข็งในที่สุด จบลงด้วยโรคมะเร็งตับนั่นเอง
การบริโภคน้ำตาล ไฮ ฟรักโทส คอร์น ไซรัป เป็นประจำ ยังก่อให้เกิดความผิดปกติของระบบการเผาผลาญ เช่นภาวะดื้อต่อฮอร์โมน อินซูลิน เบาหวาน โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ เป็นต้น
เหตุผลสำคัญอีกอย่างที่ทำให้การกินน้ำตาล ไฮ ฟรักโทส คอร์น ไซรัป เป็นอันตราย แล้วมีผลทำให้อ้วนง่าย เพราะน้ำตาลชนิดนี้ไม่ทำให้เกิดกระบวนการ “อิ่ม” อย่างที่ร่างกายควรจะรู้สึกจากการกิน ซึ่งเกิดจากน้ำตาลชนิดนี้ไม่ไปกระตุ้นการหลั่ง “ฮอร์โมนเลปติน” ที่จะไปทำหน้าที่ยับยั้งการหลั่ง “ฮอร์โมนเกรลิน” ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่หลั่งจากกระเพาะอาหาร ทำให้เราหิว อยากดื่น อยากกินอาหาร เมื่อฮอร์โมนเกรลิน ถูกยับยั้ง ส่งผลให้ความอยากอาหารลดลง
คงพอจะเข้าใจแล้วว่าน้ำตาล ไฮ ฟรักโทส คอร์น ไซรัป ส่งผลให้ร่างกายไม่หยุดความหิว ความอยากกินอาหาร แม้ว่าจะกินเข้าไปแล้ว นี่จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่น่ากลัวของความอ้วนที่จะตามมา ในขณะที่เหตุผลดังกล่าวกลับเป็นประโยชน์อย่างมากของผู้ประกอบการ หรือเจ้าของผลิตภัณฑ์ ทั้งในด้านความต้องการบริโภคได้เรื่อยๆ แบบ Non Stop แถมต้นทุนยังต่ำกว่าน้ำตาลธรรมชาติอีก สร้างกำไรได้อย่างงาม นี่จึงเป็นความน่ากลัวของน้ำตาลประเภท ไฮ ฟรักโทส คอร์น ไซรัป ที่กลายมาเป็นปัจจัยของภัยสุขภาพใกล้ตัวเรา ทำให้เราอายุสั้นโดยไม่รู้ตัว
ดังนั้นก่อนที่เราจะเลือกซื้อเครื่องดื่ม อาหาร ควรศึกษา และสังเกตให้มากขึ้น อ่านข้อมูลโภชนาการที่ฉลากสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง
Comments