อาการหลั่งเร็ว (Premature Ejaculation) เป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปของผู้ชายและก็เป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายคน อาจส่งผลต่อความมั่นใจในตนเอง การมีเซ็กส์ หรือแม้แต่ความสัมพันธ์ของคู่รัก ด้วยเหตุนี้ ผู้ชายที่เจอปัญหานี้จึงมักมองหาเคล็ดลับ หรือวิธีการมีเพศสัมพันธ์ให้นานขึ้น
การยืดระยะเวลาการมีเพศสัมพันธ์ให้นานขึ้นอาจทำได้หลายวิธี ทั้งการดูแลตนเอง การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ การศึกษาวิธีหรือเทคนิคบางอย่าง ไปจนถึงการเลือกใช้ถุงยาง ซึ่งในบทความนี้ได้รวมเคล็ดลับที่อาจช่วยยืดระยะเวลากิจกรรมบนเตียงให้นานขึ้น พร้อมทั้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาการหลั่งเร็วมาให้ศึกษากัน
ทำความเข้าใจค่าเฉลี่ยของจุดสุดยอด
ข้อมูลจากการศึกษาชิ้นหนึ่งที่วัดผลของเวลาในการมีเพศสัมพันธ์และการถึงจุดสุดยอด (Orgasm) ในผู้ชายพบว่า ระยะเวลาเฉลี่ยในการถึงจุดสุดยอดนั้นอยู่ที่ 5.4 นาที จึงอาจเรียกได้ว่าระยะเวลานี้อาจเป็นค่าเฉลี่ยทั่วไปในผู้ที่ไม่ได้มีโรคหรือปัญหาสุขภาพ แต่ในความเป็นจริงมีคนจำนวนไม่น้อยต้องการช่วงเวลาแห่งความสุขมากกว่า 5.4 นาที แม้การวิจัยและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์จะพบค่าเฉลี่ยนี้ก็ตาม
ผู้ที่มีปัญหาหลั่งเร็วในรูปแบบของความผิดปกติมักจะมีลักษณะ เช่น ถึงจุดสุดยอดด้วยการถูกกระตุ้นเพียงเล็กน้อยหรือเกิดการหลั่งในระยะเวลาไม่ถึง 1 นาที เกิดความรู้สึกผิด หรือหงุดหงิดเมื่อไม่สามารถควบคุมการหลั่งได้ พยายามทำวิธีต่างๆ เพื่อชะลอการหลั่งแต่ไม่สำเร็จ ปัญหาหลั่งเร็วในรูปแบบนี้อาจส่งผลให้เกิดความเครียดและทำให้ความต้องการทางเพศลดต่ำลงได้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวอาจเกิดจากโรค และส่งผลกระทบต่อชีวิตรักหรือเซ็กส์ได้
วิธีการมีเพศสัมพันธ์ให้นานขึ้น
การหลั่งเร็วเป็นผลมาจากจากหลายปัจจัย ตั้งแต่ไลฟ์สไตล์ น้ำหนักตัว อาหารการกิน ไปจนถึงปัญหาสุขภาพในเบื้องต้นการลองควบคุมปัจจัยเหล่านี้อาจเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาหลั่งเร็วได้ ซึ่งอาจลองทำตามวิธีต่อไปนี้
1. ควบคุมน้ำหนัก: น้ำหนักเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพหลายด้าน รวมทั้งสุขภาพเพศด้วย เพราะน้ำหนักตัวที่มากเกินและโรคอ้วนอาจนำมาซึ่งอาการหลั่งเร็วได้ มีการศึกษาพบว่าโรคที่มักมาพร้อมกับโรคอ้วนและภาวะน้ำหนักเกินล้วนแต่เพิ่มความเสี่ยงของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction) เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน และภาวะความดันโลหิตสูง เป็นต้น โรคเหล่านี้จะส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด ความยืดหยุ่นของหลอดเลือด ไปจนถึงการทำงานของเส้นประสาท ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศไม่เพียงแต่ทำให้หลั่งเร็ว แต่ยังอาจทำให้ความต้องการทางเพศลดลง และทำให้เกิดอาการนกเขาไม่ขันด้วย ดังนั้น จึงควรควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อลดระดับไขมันในร่างกายที่เป็นสาเหตุ ร่วมกับการรักษาโรคประจำตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาอาการหรือลดความเสี่ยงของปัญหาเหล่านี้
2. ออกกำลังกาย: เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาหลั่งเร็วในหลายๆ ด้าน เพราะการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมอาจช่วยในการควบคุมน้ำหนักและลดไขมันส่วนเกินภายในร่างกาย โดยจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและทำให้ระบบต่าง ๆ ทำงานได้ดีขึ้น ในแง่ของงานวิจัยก็พบการศึกษาที่สนับสนุนว่าการออกกำลังกายเป็นประจำอาจช่วยลดความเสี่ยงของการหลั่งเร็วได้ และช่วยให้สมรรถภาพทางเพศด้านอื่นดีขึ้นด้วย นอกจากนี้ การออกกำลังกายแบบ Kegel Exercise หรือการฝึกกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอาจช่วยเพิ่มระยะเวลาการมีเพศสัมพันธ์ให้นานขึ้นได้ เพราะกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานนั้นอยู่บริเวณทวารหนัก และอวัยวะเพศ ซึ่งเชื่อกันว่าเมื่อกล้ามเนื้อส่วนนี้มีความแข็งแรงก็อาจช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ อย่างการแข็งตัวของอวัยวะเพศและช่วยให้ควบคุมการหลั่งได้ดีขึ้น โดยการออกกำลังกายแบบ Kegel Exercise มีลักษณะและวิธีฝึก ดังนี้
การออกกำลังกายท่านี้สามารถทำได้ระหว่างนั่ง ยืน และนอน
- ขั้นแรกให้เกร็งกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานที่อยู่บริเวณรอบ ๆ อวัยวะเพศและทวารหนัก บางคน
อาจเรียกการเกร็งกล้ามเนื้อส่วนนี้ว่าการขมิบ
- เกร็งกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานค้างไว้ 3 วินาที จากนั้นคลายออกพัก 3 วินาที และเริ่มทำใหม่
โดยทำทั้งหมด 10 ครั้งต่อรอบ และทำ 3 รอบต่อวัน
- ระหว่างการเกร็งกล้ามเนื้อ ควรรักษาการหายใจให้สม่ำเสมอและพยายามเกร็งกล้ามเนื้อส่วน
ดังกล่าว โดยไม่ให้กล้ามเนื้อส่วนอื่นเกร็งไปด้วย
วิธีนี้อาจเห็นผลเมื่อทำอย่างสม่ำเสมอ เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงหรือทำคล่องขึ้นอาจเพิ่มจำนวนครั้ง จำนวนรอบ หรือระยะเวลาในการทำให้นานขึ้นเพื่อเพิ่มความแข็งแรง
3. ฝึกควบคุมการหลั่ง: ในภาษาอังกฤษมีคำว่า Edging เป็นคำที่ใช้เรียกวิธีควบคุมการถึงจุดสุดยอด หรือรู้จักกันอีกชื่อว่าเทคนิค Start-Stop โดยลักษณะของ Edging คือการช่วยตัวเอง หรือการมีเพศสัมพันธ์ แต่เมื่อใกล้ถึงจุดสุดยอดให้หยุดช่วยตัวเอง หรือหยุดมีเพศสัมพันธ์เพื่อไม่ให้เกิดการหลั่ง รอจนกระทั่งความรู้สึกดังกล่าวหายไปและทำแบบนี้เรื่อย ๆ จนกระทั่งไม่สามารถควบคุมได้ การฝึกควบคุมการหลั่งจะช่วยให้สมองและร่างกายทนต่อการสัมผัสและอารมณ์ทางเพศได้นานขึ้น เมื่อฝึกเป็นประจำจึงอาจเพิ่มระยะเวลาเพศสัมพันธ์ให้นานขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ควรทำอย่างเหมาะสมและควรใช้สารหล่อลื่นในการทำ Edging เพื่อป้องกันการเสียดสีหรือบาดเจ็บบริเวณอวัยวะเพศ
4. ปรับมุมมองเกี่ยวกับเซ็กส์: บางคนอาจมีความคิดหรือภาพจำเกี่ยวกับการมีเซ็กส์ว่าต้องดุเดือดถึงจะเป็นที่ประทับใจของคู่นอน ทำให้การมีเพศสัมพันธ์ครั้งนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วและสิ้นสุดลงเร็วเช่นเดียวกัน แน่นอนว่ากิจกรรมทางเพศสัมพันธ์อาจไม่ต้องเป็นเช่นนั้นเสมอไป หากรู้ว่าตนเองมีปัญหาเกี่ยวกับการหลั่ง ควรรู้จักการมีเพศสัมพันธ์อย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือใช้วิธีอื่นนอกจากการมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ หากอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ชายควรรู้คือ ผู้หญิงบางคนอาจถึงจุดสุดยอดติดต่อกันได้หลายครั้ง ในขณะที่ผู้ชายส่วนใหญ่ถึงจุดสุดยอดได้เพียงครั้งเดียว ดังนั้น เพื่อทดแทนการสอดใส่ฝ่ายชายอาจเพิ่มสีสันด้วยการทำออรัลเซ็กส์ การใช้นิ้ว หรือการเล้าโลมวิธีอื่นในระหว่างการทำกิจกรรมแล้วค่อยสอดใส่หลังจากนั้น ซึ่งอาจช่วยให้ทั้งสองฝ่ายมีช่วงเวลาแห่งความสุขร่วมกันได้นานขึ้น
5. ควบคุมอารมณ์: ความตื่นเต้นเป็นอีกหนึ่งอารมณ์ที่ทำให้การมีเพศสัมพันธ์นั้นสนุกมากยิ่งขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความตื่นเต้นระหว่างมีเพศสัมพันธ์สามารถกระตุ้นให้ร่างกายและสมองตื่นตัวจนทำให้ถึงจุดสุดยอดได้รวดเร็วขึ้น ด้วยเหตุนี้ บางคนอาจลองควบคุมความคิดและอารมณ์ไม่ให้ไปโฟกัสกับการมีเซ็กส์มากจนเกินไป เพื่อเลี่ยงการถูกกระตุ้น โดยเบี่ยงเบนความรู้สึกเกี่ยวกับเซ็กส์และความตื่นเต้นไปนึกถึงเรื่องอื่น ๆ แทน อย่างอาหาร กีฬา หรือแม้แต่การเรียน เพื่อลดความรู้สึกระหว่างมีเพศสัมพันธ์
6. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: การได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ร่างกายทำงานได้ปกติ โดยมีสารอาหารบางชนิดที่อาจช่วยเสริมการทำงานและลดความเสี่ยงความผิดปกติเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายได้ จากการศึกษาพบว่าสังกะสี หรือซิงค์มีส่วนช่วยเพิ่มการสร้างเทสโทสเทอโรน (Testosterone) หรือฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศโดยตรง ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มีสังกะสีเป็นส่วนประกอบเป็นประจำก็อาจช่วยเพิ่มฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน และลดความเสี่ยงของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศที่มีสาเหตุจากการขาดฮอร์โมนเพศชายได้ นอกจากนี้ แร่ธาตุแมกนีเซียมก็มีส่วนในระบบสืบพันธุ์และสมรรถภาพทางเพศเช่นกัน หลายคนอาจเคยได้ยินว่าการรับประทานหอยนางรมอาจช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศได้ ซึ่งหอยนางรมเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียม
สังกะสีและแมกนีเซียมอาจหาได้จากอาหาร เช่น ถั่ว ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดพืช ธัญพืช และผักบางชนิด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลายเพื่อสุขภาพโดยรวมที่ดี หากต้องการใช้อาหารเสริม ควรปรึกษาแพทย์ถึงความจำเป็นและความปลอดภัยในการใช้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว
7. ช่วยตัวเองก่อนมีเพศสัมพันธ์: หนึ่งในสาเหตุของปัญหาหลั่งเร็วอาจเป็นเพราะว่าไม่ได้ทำกิจกรรมทางเพศเป็นเวลานาน เมื่อมีเพศสัมพันธ์ร่างกายจึงไวต่อการสัมผัสและมีอารมณ์ทางเพศที่พุ่งสูงขึ้นจึงอาจกระตุ้นให้ร่างกายถึงจุดสุดยอดอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การช่วยตัวเองก่อนการมีเพศสัมพันธ์ 1–2 ชั่วโมงจึงเป็นอีกวิธีการมีเพศสัมพันธ์ให้นานขึ้นอีกวิธีหนึ่ง
8. เลือกถุงยางชนิดหนา หลายคนอาจคุ้นเคยกับถุงยางชนิดบางเฉียบที่ให้สัมผัสแบบธรรมชาติเหมือนไม่ได้ใส่ แต่การใช้ถุงยางลักษณะนี้อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาการหลั่งเร็วสักเท่าไหร่ เพราะอาจทำให้เวลาของกิจกรรมบนเตียงลดน้อยลงไปอีก ผู้ที่มีปัญหาหลั่งเร็วอาจลองใช้ถุงยางชนิดหนาแทน เพราะจะช่วยลดสัมผัสบริเวณอวัยวะและชะลอการหลั่งได้ อีกทั้งถุงยางบางชนิดยังมีสารชะลอการหลั่งที่ช่วยลดการไวต่อสัมผัสด้วย
ปัจจุบันยังมีเทคนิคและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่อาจช่วยยืดระยะเวลาในการมีเพศสัมพันธ์ได้ เช่น ครีมที่มีสารชะลอการหลั่งสำหรับทาบริเวณอวัยวะเพศโดยตรง หรือยาที่ช่วยให้มีเพศสัมพันธ์ได้นานขึ้น เป็นต้น แต่เพื่อความปลอดภัย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เพราะผลิตภัณฑ์เสริมสมรรถภาพทางเพศจำนวนไม่น้อยมีจำหน่ายผ่านทางอินเทอร์เน็ตโดยที่ไม่ได้ผ่านการรับรองหรือมีรายละเอียดที่แน่ชัด
สุดท้ายนี้ เคล็ดลับเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิธีการมีเพศสัมพันธ์ให้นานขึ้น หากลองทำตามแล้วปัญหาดังกล่าวยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง
✅สารสกัดจากโสม(คัดเฉพาะส่วนราก) 70 mg
✅สารสกัดจากหอยนางรม 55 mg
✅สารสกัดจากกระชายดำ 15 mg
✅สารสกัดจากถังเช่า 65 mg
✅แอล-อาร์จินีน 135 mg
✅สารสกัดจากกระเทียม 30 mg
✅สารสกัดจากฟีนูกรีก 55 mg
✅ซิลิเนียม อะมิโนเอซิด 5 mg
✅ซิงค์ อะมิโนเอซิด 45 mg
ช๊อปเลยที่ Shopee คลิ๊ก
Comments